กล่าวถึงปีศาจในตำนานญี่ปุ่นโดยมีความหมายดังนี้
คำว่า คิว (九) มีความหมายว่า เก้า,
บิ (尾) มีความหมายว่าหมาย
หาง ส่วน (โยโกะ) มีความหมายว่า ปีศาจจิ้งจอก โดยมีความหมายถึง คิทซึเนะ (狐) – หรือจิ้งจอกที่มีพลังพิเศษในนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมีที่มาจากหลายประเทศ
ทั้งจากอินเดีย, จีน และญี่ปุ่น แต่ก็นับเป็นปิศาจตัวเดียวกัน
ซึ่งคาดว่าปีศาจตัวนี้น่าจะมีการสืบทอดวัฒนธรรมผ่านจากประเทศอินเดียไปยังจีนตามแนวเส้นทางสายไหม
และส่งต่อวัฒนธรรมไปยังประเทศญี่ปุ่นต่อ
จิ้งจอกเก้าหางของจีน
ตำนานเรื่องจิ้งจอกเก้าหางของประเทศจีน
ปรากฏอยู่ในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ อย่างเรื่อง ฮ่องสิน
ซึ่งเป็นเรื่องที่กล่าวถึงภูตผีปิศาจ เรื่องราวเริ่มต้นจาก พระเจ้าโจ้วหวาง
(ติวอ๋อง) แห่งราชวงศ์ซางได้เดินทางไปวิหารของเจ้าแม่หนวี่วา (หนึงวาสี) เพื่อสักการะบูชา
ซึ่งรูปเคารพเจ้าแม่จะมีผ้าแพรกั้นใบหน้าอยู่ไม่ให้มองเห็น
แต่พอดีที่มีลมพัดผ่านมา จึงเปิดผ้าแพรออกและแสดงใบหน้าของโจ้วหวาง
เมื่อพระองค์ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของรูปเคารพเจ้าแม่หนวี่วา
ก็ตกหลุมรักในความงดงาม และเอ่ยปากออกมาว่า ความงดงามของเจ้าแม่ขนาดนี้ควรอย่างยิ่งที่จะได้เป็นมเหสี
แต่เมื่อเจ้าแม่หนวี่วาได้ยินคำพูดดังกล่าวนั้น
ก็ทรงกริ้วมาก และส่งให้ปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง
ปิศาจพิณ และปิศาจไก่ มาลงโทษโจ้วหวาง จนทำให้เกิดความลุ่มหลง
ในที่สุดจนบ้านเมืองของเขาก็ล่มสลาย ทั้งนี้ ได้คุ้มครองไม่ให้ราษฎรต้องได้รับอันตรายแต่อย่าใด
ในเวลานั้น
มีนางงามที่ชื่อว่า ต๋าจี ผู้เป็นลูกสาวของเจ้าเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง
ถูกส่งตัวเข้ามาเป็นพระสนมในวังของโจ้วหวางพอดี แม้ว่าต๋าจี
จะเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาและรูปร่างที่งดงามเป็นอย่างมาก
แต่ก็มีความอาภัพในชีวิตเป็นอย่างมาก จิ้งจอกเก้าหางจึงได้แอบดักฆ่าต๋าจี
และแฝงกายเป็นต๋าจีแทน เพื่อจะได้แอบเข้าวัง
หลังจากที่โจ้วหวางได้เจอกับต๋าจี
ก็รู้สึกชอบพอใจในตัวต๋าจีที่มีรูปโฉมสวยงามราวกับเจ้าแม่หนวี่วาเป็นอย่างมาก
ต๋าจีมีวาจาที่ไพเราะอ่อนหวานอย่างเช่นเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ จนไม่มีหญิงใดในแผ่นดินที่จะเทียบความงามได้เลย
จิ้งจอกเก้าหางพยายามทำให้โจ้วหวางหลงรักในรูปโฉมของนางจนยากที่จะถอนตัว
ซึ่งวิธีการที่จิ้งจอกเก้าหางพยายามทำก็คือ การร้องเพลงขับกล่อม เล่นดนตรีให้ฟัง
และร่ายรำด้วยท่าทางที่งดงามให้ดู บวกกับความงดงามที่นางมีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้โจ้วหวางลุ่มหลงในตัวนางอย่างยากที่จะถอนตัว จากนั้น
จิ้งจอกเก้าหางก็ได้พยายามยุยงให้โจ้วหวางกระทำแต่เรื่องชั่วร้าย
และฆ่าคนอย่างเลือดเย็นไปเป็นจำนวนมากเสมอมา
สุดท้าย ต๋าจี
หรือจิ้งจอกเก้าหาง ก็ได้บอกให้โจ้วหวางสร้างหอสอยดาวขึ้นมา
ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ราษฎรเกิดความทุกข์ยาก เดือดร้อน และล้มตาย
ไปเป็นจำนวนมากมายมหาศาล
เนื่องจากราษฎรจะต้องถูกเกณฑ์มาใช้แรงงานเพื่อสร้างหอสอยดาวนี้ขึ้นมา
แต่สุดท้าย
ก็มี เจียงจื่อหยา มาช่วยกำจัดปิศาจทั้งสามตัวนี้
บุคคลผู้นี้ได้รับการฝึกวิชาบนภูเขาจนกลายเป็นบุคคลวิเศษที่ไม่มีใครสูได้
เจาได้รับบัญชาจากสรวงสวรรค์เพื่อลงมาขจัดความทุกข์เข็ญของเหล่าราษฎร
โดยมาพร้อมกับนาจาศิษย์เอก
ปิศาจทั้งสามถูกคุมตัวไปตัดสินโทษโดยเจ้าแม่หนวี่วา
แต่จิ้งจอกเก้าหางกลับเห็นว่า เหตุใดตนจึงต้องได้รับโทษ
ทั้งที่สามารถทำงานที่เจ้าแม่มอบหมายไว้ได้ เจ้าแม่หนวี่วาจึงตอบกลับไปว่า
พระองค์นั้นใช้ให้จิ้งจอกเก้าหางไปทำลายแต่เพียงโจ้วหวางเท่านั้น
มิได้สั่งให้ไปทำร้ายร่างกายผู้คนมากมายเช่นนี้
การกระทำของจิ้งจอกเก้าหางจึงเป็นการทำเกินกว่าคำสั่ง สมควรจะต้องถูกลงโทษ
ปิศาจพิณ
และปิศาจไก่ ถูกลงโทษจนถึงแก่ความตาย มีเพียงจิ้งจอกเก้าหางเท่านั้นที่สามารถหลบหนีการลงโทษไปได้
โจ้วหวางรู้สึกเศร้าโศกเสียใจยิ่งนักเมื่อต้องสูญเสียเมียที่รักไป
จึงทำการเผาทำลายหอสอยดาวทิ้ง และสุมตัวเองจนตายในกองเพลิง
จิ้งจอกเก้าหางของญี่ปุ่น
กล่าวถึงตำนานของญี่ปุ่นไว้ว่า
จิ้งจอกเก้าหางเป็นปิศาจที่เข้ามาแฝงตัวในราชสำนักของญี่ปุ่นในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิ์โทบะ
หลังจากที่จิ้งจอกเก้าหางหลบหนีออกมาจากอินเดียและจีนได้แล้ว
ก็แอบแฝงตัวเข้ามาในร่างของหญิงสาวรูปงดงามที่มีชื่อว่า ทามาโมะ มาเอะ
ด้วยความสวยของนาง
ทำให้จักรพรรดิ์โทบะเกิดความลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น จนเวลาผ่านไป
สุขภาพร่างกายของจักรพรรดิ์โทบะก็ทรุดโทรมลงทุกวันๆ
จึงได้มีการทำพิธีปัดรังควานโดยการอัญเชิญนักพรตจากหอองเมียวมาช่วยทำพิธี
จนได้ทราบว่า ขณะนี้ในวังมีปิศาจจิ้งจอกเก้าหางสีทองแฝงตัวอยู่นั่นเอง
เมื่อความจรองเปิดเผย
ทามาโมะ มาเอะ จึงแปลงร่างกลับกลายเป็นเป็นจิ้งจอกสีทองตัวใหญ่โตที่มีหางยาวเก้าหาง
แล้วจึงเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อหลบหนีไป
แต่กองทหารของแงค์จักรพรรดิ์โทบะก็สามารถไล่ตามไปได้ เมื่อถึงที่ราบสูงนาสุ
ก็เกิดการต่อสู้ระหว่างกองทหารและปิศาจจิ้งจอกเก้าหางขึ้น
แต่สุดท้ายกองทหารก็สามารถปราบจิ้งจอกเก้าหางลงได้สำเร็จ และกลายเป็นหินเซ็ทโชเซกิ
ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเลื่องชื่อแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม
พบว่ามักเกิดความสับสนสำหรับผู้ที่เริ่มต้นศึกษาตำนานของปีศาจจอกเก้าหางกับตำนานของเทพเจ้าแห่งจิ้งจอก
อินาริ (稲荷, Inari หรือ Oinari)
ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ถือเป็นคนละเรื่องกัน ในส่วนของอินารินั้น
ถือเป็น คามิ (神, Kami) หรือเทพเจ้าองค์หนึ่งของศาสนาชินโต
ซึ่งตามตำนานแล้วเป็นศาสนาดั้งเดิมในประเทศญี่ปุ่น
cr.http://www.tumnandd.com/
cr.http://www.tumnandd.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น